เมื่อมีเงินโอนเข้ามาในบัญชี.... ว่าแต่ใครโอนมา ?

เมื่อมีเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีกสิกรไทย สมมุติว่า ยอด 10,000 บาท

สิ่งแรกที่รู้สึกคือ....ใครโอนมา, เงินค่าอะไร งานไหน แล้วทำไมไม่แจ้งว่าจะจ่ายเงิน แทนที่จะดีใจ ก็ปวดหัวแทน เพราะไม่รู้ว่าใครโอนมา แล้วที่โอนมาเนี่ย มันเงินของงานไหน

สิ่งที่ทำไม่ได้คือ ถามลูกค้าว่าโอนมาหรอ ยอมจ่ายเงินผมแล้วใช่ไหม เพราะปกติแล้วงานแต่ละชิ้นยอดตรงกันเยอะมาก จะให้เดาว่าลูกค้ารายไหน ไม่รู้จะเดายังไง แล้วยิ่งต้องทำงานหลายอย่าง บางทีก็ลืมว่างานไหนยอดเท่าไหร่ มีจดไว้ก็จริงแต่ยอดตรงกันเยอะ บวกกับบางทีจ่ายช้า จ่ายเร็ว บางที่ก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก

ลำดับต่อมาคือเช็ค k cyber banking ปรากฏว่าุบอกแค่ตัวเลขเชี่ยไรไม่รู้ เลขบัญชีคนโอนก็ไม่ใช่ มีบอกแค่โอนผ่านช่องทางไหน แล้วก็ตัวเลขที่ดูงงๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นบัญชีของใคร ใครโอนมาอยู่ดี


ที่เคยเจอหลักๆ มีอยู่ 2 กรณี


กรณีที่ 1 ฝากเช็คให้ หรือทำรายการที่สำนักงาน

กรณีนี้สิ่งที่ต้องทำคือ โทรสอบถาม Call Center ว่าเงินยอดนี้ใครโอนมา ซึ่งถ้าโอนจากกสิกรด้วยกันจะบอกชื่อบัญชีได้เลย แต่ถ้าไม่ พนักงานจะแจ้งแค่ชื่อธนาคารต้นทางที่โอนมา

สิ่งที่เราต้องทำคือ โทรไปสอบถามที่ Call Center ของธนาคารนั้น (เขาก็จะสอบถามข้อมูล เช่น เลขกำกับการโอน, เลขบัญชีของเรา, ยอดที่โอนเข้า, เวลาที่โอน) ถ้าข้อมูลตรงก็จะทราบได้ทันที ว่าใครโอนเงินมาให้

กรณีที่ 2 โอนจาก Internet Banking

กรณีที่ 2 อันนี้ค่อนข้างปวดตับมาก ถึงมากที่สุด คือโอนจาก Internet Banking สิ่งที่ต้องทำคือ โทรไปสอบถาม Call Center เช่นกัน แต่กรณีนี้ไม่มีเลขกำกับการโอน เพราะการโอนผ่าน Internet Banking เลขการโอนแม่งเหมือนกันแทบทุกรายการ ก็ต้องใช้ยอดที่โอนมา กับเวลาที่โอนมาในการอ้างอิงเพื่อตรวจสอบเอา

แต่ทีนี้พนักงาน Call Center ก็จะบอกว่า "ต้นทางโอนผ่าน Internet banking ทราบแค่เลขบัญชี ไม่ทราบชื่อบัญชี" (ในกรณีที่เป็นต่างธนาคาร ผมเข้าใจว่าพนักงานน่าจะสามารถบอกได้ว่าโอนจาก Internet Banking ของอะไร ผมเองก็เคยเจอแต่โอนผ่าน k cyber banking)

เอาละ !! วนกลับมา ณ จุดๆ เดิม พนักงานไม่สามารถเช็คให้ได้ว่าคนที่โอนมาชื่ออะไร สิ่งที่ผมทำได้คือ

  • เดินไปที่ตู้ ATM แล้วกดโอนเงิน เลือกธนาคารกสิกรไทย แล้วกรอกไอ้เลขบัญชีที่โอนมาให้ผม จากนั้นผมก็จะทราบว่า เจ้าของบัญชีชื่ออะไร พอทราบแล้วก็กดยกเลิกรายการครับ อย่าไปโอนเงินให้เขาละ ฮ่าๆๆ

  • แอดชื่อบัญชีเข้าในระบบ k cyber banking แล้วผมก็จะทราบชื่อเจ้าของบัญชี โดยส่วนใหญ่ผมเลือกวิธีนี้เพราะไม่ต้องออกไปข้างนอก
นี่ก็เป็นปัญหาที่ผมเจอบ่อยมาก ทางที่ดีควรแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า "โอนเงินตอนไหนแจ้งด้วยนะครับ" แต่ก็มิได้นำพา เพราะผมแจ้งประจำแต่ก็น้อยมากที่จะแจ้ง ยกเว้นพวกที่เลื่อนจ่ายมาหลายรอบ พวกนี้เราต้องตาม พอโอนมาพวกนี้ก็จะแจ้งทันที ไม่ก็แจ้งล่วงหน้าก่อนโอน เพราะกลัวเราตามจิ๊กเรื่องเงิน ฮ่าๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami