สิ่งที่เกิดขึ้นหลังไมโครซอฟท์ยุติการสนับสนุน Windows XP
ถ้าพูดถึงระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชั่นที่คนคุ้นเคย และรู้จักมากที่สุดก็คงหนีไปไม่พ้น Windows XP เป็นเวอร์ชั่นที่อยู่มาอย่างยาวนาน เกือบ 12 ปีเลยทีเดียว แม้ช่วงหลังๆ จะมี Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ อาทิ Windows Vista, Windows 7 จนกระทั่งถึงเวอร์ชั่นปัจจุบันอย่าง Windows 8 และ 8.1 ตามลำดับ แต่ก็ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังใช้ Windows XP อยู่
ถ้าใครมีโอกาสติดตามข่าวสารไอทีคงทราบกันดีว่าทางไมโครซอฟท์ ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะยุติการสนับสนุน Windows XP ในวันที่ 8 เมษายนนี้ พูดง่ายๆ ก็คือว่า Windows XP จะหมดอายุนั่นเอง คำถามที่หลายๆ คนสงสัยคือ ถ้าไมโครซอฟท์ยุติการสนับสนุน Windows XP เราจะยังสามารถใช้งาน Windows XP ต่อไปได้ไหม คำตอบคือได้ครับ Windows XP ยังคงใช้งานได้ แต่ว่าไม่แนะนำ
การที่ระบบปฏิบัติการหมดอายุนั้นมีความสำคัญยังไง เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนคงมีคำถาม และสงสัยแน่นอน จริงๆ สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ใช้ที่เป็นรูปแบบบริษัทและในระดับองค์กรยิ่งต้องตระหนักถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น หากยังคงใช้ระบบปฏิบัติการที่หมดอายุต่อไป ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นมีอะไรบ้างมาดูกันทีละข้อเลยครับ
ความเสี่ยงที่ระบบคอมพิวเตอร์ล่ม จะส่งผลให้บริการลูกค้าไม่ได้สูงขึ้น
หลังวันที่ 8 เมษายน 57 เป็นต้นไป Windows XP จะไม่ได้รับทั้งอัพเดทแพทช์แก้ไขต่างๆ รวมไปถึงการแก้ปัญหาทางเทคนิคอีกต่อไป ดังนั้นความเสี่ยงจะตกอยู่ที่ตัวผู้ใช้เองที่ต้องเสี่ยงกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ของตัวเอง มีโอกาสที่จะถูกโจมตีสูงขึ้น โอกาสที่ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทจะถูกแฮ็ก มีไวรัส หรือมัลแวร์ ก็ยิ่งสูงขึ้น
โดยเฉพาะข้อสุดท้ายจะเป็นกรณีที่โดนกันมากที่สุด มัลแวร์เป็นซอฟต์แวร์อันตราย ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วชนิดที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลย เช่น ทำให้ระบบทำางานบกพร่อง ผู้ใช้ถูกขโมยข้อมูล เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วมัลแวร์จะเกิดจากการที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดประเภท โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่พบบ่อย เช่น ทูลบาร์ต่างๆ นั่นเอง
ความเสี่ยงจากการติดไวรัส/มัลแวร์ กับ Windows XP จะสูงขึ้นเมื่อหมดอายุลงก็เพราะ จะไม่ได้รับการติดตั้งแพทช์อัพเดทช่องโหว่ใดๆ เพิ่มเติมอีก หลังวันที่ 8 เมษายน 2557เป็นต้นไป
ปัญหากับการใช้ซอฟต์แวร์หรือแอพเวอร์ชันใหม่ๆ
เมื่อไมโครซอฟท์เลิกสนับสนุน Windows XP นั่นหมายถึงผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และนักพัฒนา
ซอฟต์แวร์ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะผลิตสินค้าและสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานร่วมกับ Windows XP อีกต่อไป ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์เท่านั้น เกมส์ที่ออกใหม่ต่างๆ ก็จะไม่รองรับ Windows XP อีกต่อไป
ด้วยข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า นี่ยังไม่รวมไปถึงช่องโหว่ต่างๆ มากมายที่จะเกิดขึ้นหลังจากการยุติการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ ก็จะยิ่งทำให้บริษัทและองค์กรที่ยังใช้ Windows XP อยู่เกิดความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สิ้นสุด Windows Update สำหรับ Windows XP
เมื่อ Windows XP ไม่ได้รับการสนับสนุน นั่นหมายความว่าคุณสมบัติที่สำคัญอย่าง Windows Update ก็จะหยุดให้บริการ สำหรับ Windows XP ไปด้วย ความสำคัญของ Windows Update คือแหล่งอัพเดทแพทช์แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่หลายๆ บริษัทใช้อุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นกับเครื่องในการทำงาน ไม่ใช่แค่ระบบวินโดวส์แต่รวมไปถึงบราวเซอร์อย่าง IE ที่หลายๆ บริษัทนิยมใช้ ก็จะไม่ถูกอัพเดทจากแพทช์แก้ไข เมื่อไม่ได้รับการอัพเดทแก้ไขจากแพทช์ของไมโครซอฟท์ นั่นหมายถึง ระบบคอมพิวเตอร์ภายในบริษัทหรือองค์กรจะเกิดความเสี่ยงขึ้นทันทีจากการถูกแฮ็ก ไวรัสและ
ติดมัลแวร์ได้ง่ายกว่าตอนที่ยังสนับสนุนอยู่
การสนับสนุนและให้บริการ
อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อเราซื้อ Windows ของแท้มา ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตาม จะได้รับบริการทางเทคนิคและ Call Center ปัจจุบันมี Call Center คนไทยให้บริการตามเวลาราชการ ซึ่งผมเองก็ใช้บริการอยู่บ่อยๆ
นับจากวันที่ 8 เมษายน 2557 เป็นต้นไป ผู้ใช้ Windows XP จะไม่สามารถใช้บริการทางเทคนิคและCall Center ของไมโครซอฟท์ได้อีกต่อไป เราไม่สามารถขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาสำหรับ Windows XP ได้แล้ว ฉะนั้นอัพเดทเป็น Windows 7 หรือ Windows 8 เถอะครับ
สถิติภัยคุกคามที่น่าสนใจ
ในกราฟ Infection Rate แสดงให้เห็นว่าระบบปฏิบัติการ Windows XP ถึงแม้ว่าจะได้ติดตั้งเซอร์วิสแพ็กล่าสุด SP3 แล้วก็ตาม ก็ยังมีอัตราการติดไวรัสมากถึง 9.1 CCM (Computers Cleaned per Mille) ซึ่งสูงกว่า Windows 8 RTM ถึง 6 เท่า
นอกจากนี้จากกราฟ Encounter Rate ซึ่งแสดงถึงโอกาสที่ระบบปฏิบัติการจะเจอไวรัสนั้น สำหรับ Windows XP Service pack 3 ก็ยังคงมีถึง 16.3% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สูง เมื่อมองในแง่ของการเป็นระบบปฏิบัติการที่มีอายุนานกว่า 12 ปี และในความเป็นจริง ตัวเลขนี้ในปี 2557 อาจสูงยิ่งกว่านี้ เมื่อไมโครซอฟท์หยุดการสนับสนุนในวันที่ 8 เมษายน 2557
อัพเกรดระบบตั้งแต่วันนี้
ในวันที่ 8 เมษายน 2557 ที่จะถึงนี้ ไมโครซอฟท์จะสิ้นสุดการให้การสนับสนุนระบบปฎิบัติการ Windows XP และโปรแกรมชุด Office 2003 ลงอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ใช้ Windows XP เดิมสามารถโอนย้ายจากระบบปฏิบัติการ Windows XP ไป Windows เวอร์ชั่นใหม่ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
โดยไมโครซอฟท์ได้แนะนำ 2 ตัวช่วยฟรีสำหรับการโอนย้ายระบบปฏิบัติการ ได้แก่ PCmover Express for Windows XP เครื่องมือที่ช่วยในการโอนย้ายจากระบบปฏิบัติการ Windows XP และ เว็บไซต์ AmIrunningXP.com ที่จะช่วยระบุระบบปฏิบัติการที่ท่านกำลังใช้งานอยู่
นอกจากนี้ นับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 15:00 ผู้ใช้งาน Windows XP (ทั้งไลเซนส์ประเภท Home และ Professional) จะได้รับการแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่าน วินโดวส์ อัพเดท ถึงการสิ้นสุดการบริการที่กำลังจะมาถึง
2 ตัวช่วยใหม่ให้ใช้งานฟรีๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอีโอนย้ายจากระบบปฏิบัติการเดิม
- เครื่องมือฟรีเพื่อการย้ายจากวินโดวส์ XP: PCmover Express for Windows XP ซึ่งทางไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับ Laplink พัฒนา PCmover Express for Windows XP ซึ่งช่วยทำการคัดลอกไฟล์งานและการตั้งค่าต่างๆ จากคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP ไปสู่เครื่องใหม่ที่ใช้ Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1 ใครสนใจวิธีนี้สามารถดาวน์โหลด PCmover Express ได้ที่ www.windowsxp.com
- เว็บไซต์ที่ช่วยระบุระบบปฏิบัติการบนพีซีของคุณอย่างอัตโนมัติ: AmIrunningXP.com สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่แน่ใจว่าระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่เป็นเวอร์ชั่นใด ไมโครซอฟท์ก็ได้เปิดตัว AmIRunningXP.com เว็บไซต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณกำลังใช้ระบบปฏิบัติการใดโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น Windows XP หรือ Windows ชันใหม่ๆ เช่น Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1
เอาเป็นว่าบริษัทไหน องค์กรใด หรือผู้ใช้ท่านไหนที่ยังใช้ Windows XP อยู่ อัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นใหม่เถอะครับ ไม่ใช่เพื่อความทันสมัย แต่เพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงการได้รับสิทธิ์ดูแลสนับสนุนอัพเดทแก้ไขปัญฆาที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ของเรา
ความคิดเห็น