สิ่งที่เกิดขึ้นหลังไมโครซอฟท์ยุติการสนับสนุน Windows XP

2014-04-01_15-11-22

ถ้าพูดถึงระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชั่นที่คนคุ้นเคย และรู้จักมากที่สุดก็คงหนีไปไม่พ้น Windows XP เป็นเวอร์ชั่นที่อยู่มาอย่างยาวนาน เกือบ 12 ปีเลยทีเดียว แม้ช่วงหลังๆ จะมี Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ อาทิ Windows Vista, Windows 7 จนกระทั่งถึงเวอร์ชั่นปัจจุบันอย่าง Windows 8 และ 8.1 ตามลำดับ แต่ก็ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังใช้ Windows XP อยู่

ถ้าใครมีโอกาสติดตามข่าวสารไอทีคงทราบกันดีว่าทางไมโครซอฟท์ ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะยุติการสนับสนุน Windows XP ในวันที่ 8 เมษายนนี้ พูดง่ายๆ ก็คือว่า Windows XP จะหมดอายุนั่นเอง คำถามที่หลายๆ คนสงสัยคือ ถ้าไมโครซอฟท์ยุติการสนับสนุน Windows XP เราจะยังสามารถใช้งาน Windows XP ต่อไปได้ไหม คำตอบคือได้ครับ Windows XP ยังคงใช้งานได้ แต่ว่าไม่แนะนำ

การที่ระบบปฏิบัติการหมดอายุนั้นมีความสำคัญยังไง เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนคงมีคำถาม และสงสัยแน่นอน จริงๆ สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ใช้ที่เป็นรูปแบบบริษัทและในระดับองค์กรยิ่งต้องตระหนักถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น หากยังคงใช้ระบบปฏิบัติการที่หมดอายุต่อไป ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นมีอะไรบ้างมาดูกันทีละข้อเลยครับ

2014-04-01_15-10-41

ความเสี่ยงที่ระบบคอมพิวเตอร์ล่ม จะส่งผลให้บริการลูกค้าไม่ได้สูงขึ้น


หลังวันที่ 8 เมษายน 57 เป็นต้นไป Windows XP จะไม่ได้รับทั้งอัพเดทแพทช์แก้ไขต่างๆ รวมไปถึงการแก้ปัญหาทางเทคนิคอีกต่อไป ดังนั้นความเสี่ยงจะตกอยู่ที่ตัวผู้ใช้เองที่ต้องเสี่ยงกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ของตัวเอง มีโอกาสที่จะถูกโจมตีสูงขึ้น โอกาสที่ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทจะถูกแฮ็ก มีไวรัส หรือมัลแวร์ ก็ยิ่งสูงขึ้น

โดยเฉพาะข้อสุดท้ายจะเป็นกรณีที่โดนกันมากที่สุด มัลแวร์เป็นซอฟต์แวร์อันตราย ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วชนิดที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลย เช่น ทำให้ระบบทำางานบกพร่อง ผู้ใช้ถูกขโมยข้อมูล เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วมัลแวร์จะเกิดจากการที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดประเภท โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่พบบ่อย เช่น ทูลบาร์ต่างๆ นั่นเอง

ความเสี่ยงจากการติดไวรัส/มัลแวร์ กับ Windows XP จะสูงขึ้นเมื่อหมดอายุลงก็เพราะ จะไม่ได้รับการติดตั้งแพทช์อัพเดทช่องโหว่ใดๆ เพิ่มเติมอีก หลังวันที่ 8 เมษายน 2557เป็นต้นไป

2014-04-01_15-10-59

ปัญหากับการใช้ซอฟต์แวร์หรือแอพเวอร์ชันใหม่ๆ


เมื่อไมโครซอฟท์เลิกสนับสนุน  Windows XP นั่นหมายถึงผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และนักพัฒนา
ซอฟต์แวร์ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะผลิตสินค้าและสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานร่วมกับ  Windows XP อีกต่อไป ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์เท่านั้น เกมส์ที่ออกใหม่ต่างๆ ก็จะไม่รองรับ  Windows XP อีกต่อไป

ด้วยข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า นี่ยังไม่รวมไปถึงช่องโหว่ต่างๆ มากมายที่จะเกิดขึ้นหลังจากการยุติการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ ก็จะยิ่งทำให้บริษัทและองค์กรที่ยังใช้ Windows XP อยู่เกิดความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สิ้นสุด Windows Update สำหรับ Windows XP


เมื่อ Windows XP ไม่ได้รับการสนับสนุน นั่นหมายความว่าคุณสมบัติที่สำคัญอย่าง Windows Update ก็จะหยุดให้บริการ สำหรับ Windows XP ไปด้วย ความสำคัญของ Windows Update คือแหล่งอัพเดทแพทช์แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่หลายๆ บริษัทใช้อุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นกับเครื่องในการทำงาน ไม่ใช่แค่ระบบวินโดวส์แต่รวมไปถึงบราวเซอร์อย่าง IE ที่หลายๆ บริษัทนิยมใช้ ก็จะไม่ถูกอัพเดทจากแพทช์แก้ไข เมื่อไม่ได้รับการอัพเดทแก้ไขจากแพทช์ของไมโครซอฟท์ นั่นหมายถึง ระบบคอมพิวเตอร์ภายในบริษัทหรือองค์กรจะเกิดความเสี่ยงขึ้นทันทีจากการถูกแฮ็ก ไวรัสและ
ติดมัลแวร์ได้ง่ายกว่าตอนที่ยังสนับสนุนอยู่

2014-04-02_0-25-41การสนับสนุนและให้บริการ


อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อเราซื้อ Windows ของแท้มา ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตาม จะได้รับบริการทางเทคนิคและ Call Center ปัจจุบันมี Call Center คนไทยให้บริการตามเวลาราชการ ซึ่งผมเองก็ใช้บริการอยู่บ่อยๆ

นับจากวันที่ 8 เมษายน 2557 เป็นต้นไป ผู้ใช้ Windows XP จะไม่สามารถใช้บริการทางเทคนิคและCall Center ของไมโครซอฟท์ได้อีกต่อไป เราไม่สามารถขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาสำหรับ Windows XP ได้แล้ว ฉะนั้นอัพเดทเป็น Windows 7 หรือ Windows 8 เถอะครับ

สถิติภัยคุกคามที่น่าสนใจ


2014-04-02_0-34-48

ในกราฟ Infection Rate แสดงให้เห็นว่าระบบปฏิบัติการ Windows XP ถึงแม้ว่าจะได้ติดตั้งเซอร์วิสแพ็กล่าสุด SP3 แล้วก็ตาม ก็ยังมีอัตราการติดไวรัสมากถึง 9.1 CCM (Computers Cleaned per Mille) ซึ่งสูงกว่า Windows 8 RTM ถึง 6 เท่า

นอกจากนี้จากกราฟ Encounter Rate ซึ่งแสดงถึงโอกาสที่ระบบปฏิบัติการจะเจอไวรัสนั้น สำหรับ Windows XP Service pack 3 ก็ยังคงมีถึง 16.3% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สูง เมื่อมองในแง่ของการเป็นระบบปฏิบัติการที่มีอายุนานกว่า 12 ปี และในความเป็นจริง ตัวเลขนี้ในปี 2557 อาจสูงยิ่งกว่านี้ เมื่อไมโครซอฟท์หยุดการสนับสนุนในวันที่ 8 เมษายน 2557

อัพเกรดระบบตั้งแต่วันนี้


2014-04-02_0-39-07

ในวันที่ 8 เมษายน 2557 ที่จะถึงนี้ ไมโครซอฟท์จะสิ้นสุดการให้การสนับสนุนระบบปฎิบัติการ Windows XP และโปรแกรมชุด Office 2003 ลงอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ใช้ Windows XP เดิมสามารถโอนย้ายจากระบบปฏิบัติการ Windows XP ไป Windows เวอร์ชั่นใหม่ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

โดยไมโครซอฟท์ได้แนะนำ 2 ตัวช่วยฟรีสำหรับการโอนย้ายระบบปฏิบัติการ ได้แก่ PCmover Express for Windows XP เครื่องมือที่ช่วยในการโอนย้ายจากระบบปฏิบัติการ Windows XP และ เว็บไซต์ AmIrunningXP.com ที่จะช่วยระบุระบบปฏิบัติการที่ท่านกำลังใช้งานอยู่

นอกจากนี้ นับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 15:00 ผู้ใช้งาน Windows XP (ทั้งไลเซนส์ประเภท Home และ Professional) จะได้รับการแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่าน วินโดวส์ อัพเดท ถึงการสิ้นสุดการบริการที่กำลังจะมาถึง

2 ตัวช่วยใหม่ให้ใช้งานฟรีๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอีโอนย้ายจากระบบปฏิบัติการเดิม

  • เครื่องมือฟรีเพื่อการย้ายจากวินโดวส์ XP: PCmover Express for Windows XP ซึ่งทางไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับ Laplink พัฒนา PCmover Express for Windows XP ซึ่งช่วยทำการคัดลอกไฟล์งานและการตั้งค่าต่างๆ จากคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP ไปสู่เครื่องใหม่ที่ใช้ Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1 ใครสนใจวิธีนี้สามารถดาวน์โหลด PCmover Express ได้ที่ www.windowsxp.com


  • เว็บไซต์ที่ช่วยระบุระบบปฏิบัติการบนพีซีของคุณอย่างอัตโนมัติ: AmIrunningXP.com สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่แน่ใจว่าระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่เป็นเวอร์ชั่นใด ไมโครซอฟท์ก็ได้เปิดตัว AmIRunningXP.com เว็บไซต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณกำลังใช้ระบบปฏิบัติการใดโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น Windows XP หรือ Windows ชันใหม่ๆ เช่น Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1

เอาเป็นว่าบริษัทไหน องค์กรใด หรือผู้ใช้ท่านไหนที่ยังใช้ Windows XP อยู่ อัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นใหม่เถอะครับ ไม่ใช่เพื่อความทันสมัย แต่เพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงการได้รับสิทธิ์ดูแลสนับสนุนอัพเดทแก้ไขปัญฆาที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ของเรา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

📖✨ 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คุณจะเป็นคนโปรดของตัวเองเสมอ 1. ต้องรักตัวเองก่อนเสมอ - เวลารักใคร ไม่ว่ายังไงก็ต้องรักตัวเองให้ได้ก่อน ถึงจะรักคนอื่นได้ดี อย่าเผลอเอาความรักตัวเองทั้งหมดไปให้คนอื่น จนกลายเป็น “คนที่ลืมรักตัวเอง” 2. ขีดจำกัดของแต่ละคนไม่เท่ากัน - “ไหว และ ไม่ไหว” ของแต่ละคนไม่เท่ากัน เรื่องเล็กหรือใหญ่ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน สุดท้าย “ไม่ไหวก็คือไม่ไหว” 3. โปรดใจดีกับตัวเองเสมอ - ได้โปรด อย่าใจร้ายกับตัวเอง แม้ในวันที่โลกใจร้ายกับเรา และในวันที่ผู้คนมองข้ามความรู้สึก เรายิ่งต้องยืนหยัดอยู่เคียงข้างตัวเอง 4. จงอยู่เคียงข้างตัวเอง - ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะยังมีตัวเองเสมอ จงเชื่อมั่นในตัวเอง คอยเป็นเพื่อนรับฟัง เป็นกำลังใจ และปลอบโยนตัวเอง 5. ปล่อยวางอดีตและให้อภัยตัวเอง - อย่าทอดทิ้งตัวเองไว้ในอดีต จงให้อภัยตัวเอง ปล่อยวางเรื่องเก่าๆ และให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่หรือก้าวต่อไป 6. จงโฟกัสที่ตัวเอง - คิดเรื่องคนอื่นให้น้อยลง โฟกัสที่เส้นทางและเป้าหมายของตัวเองให้มากขึ้น ทำมันให้ดีที่สุด อย่าปล่อยให้การกระทำของคนอื่นมาทำให้เราเจ็บปวด 7. ไม่อนุญาตให้ใครมาทำร้าย - สักวันหนึ่ง เราจะไม่ยอมให้คำพูด สายตา หรือการกระทำของคนอื่นมาทำร้ายจิตใจเราได้อีก หากเราไม่อนุญาต พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ 8. ชีวิตต้องการ “พื้นดิน” ที่มั่นคง - ชีวิตคนเราอาจเหมือนการอยู่บนเรือที่โคลงเคลง เราทุกคนต่างต้องการ “พื้นดิน” ที่มั่นคง เพื่อให้ก้าวลงไปยืนได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องหวาดระแวง 9. ความตั้งใจจะไม่สูญเปล่า - สักวันหนึ่ง เราจะสมหวังในสิ่งที่ตั้งใจและทุ่มเท เพราะไม่มีสิ่งไหนที่เราทำแล้วจะไม่สำเร็จ ความตั้งใจของเราจะไม่สูญเปล่าแน่นอน ผู้เขียน: Imminimus สำนักพิมพ์: Spring #ความรักและการเติบโต #เตือนใจในความรัก #รักตัวเองสำคัญที่สุด #ชีวิตที่ต้องเลือกตัวเอง #krapalmหนังสือซื้อแล้วอ่านด้วย

📖✨ 7 ข้อคิด จากหนังสือ | จิตวิทยาต่อรอง จะต้องพูดและทำอะไรในการต่อรองที่แพ้ไม่ได้ 1. ไม่มีข้อตกลง...ดีกว่าข้อตกลงที่แย่ - ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนที่ต่ำเกินไป สัญญาที่เอาเปรียบ “จงกล้าที่จะเดินออกมา...เพราะบางโต๊ะ ไม่มีที่ให้นั่งสำหรับคนที่เห็นค่าตัวเองต่ำ” 2. “จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?” - ประโยคปฏิเสธอย่างสุภาพ ใช้ได้กับหัวหน้าที่สั่งงานเกินจริง ลูกค้าที่กดราคา หรือ HR ที่เสนอค่าจ้างต่ำ มันคือการโยนโจทย์กลับไปให้เขาช่วยคิดโดยไม่ต้องเถียง 3. ถามคำถามที่นำไปสู่คำตอบว่า “ไม่” - อย่าถาม “คุณสะดวกคุยไหม?” แต่ถาม “ตอนนี้ไม่สะดวกคุยหรือเปล่า?” เพราะคำว่าไม่ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยและควบคุมได้ และเมื่อเขารู้สึกว่าควบคุมได้ เขาจะเปิดใจคุยกับคุณจริง ๆ 4. ถามลูกค้าด้วยประโยค “ความสำเร็จของโปรเจกต์นี้...หน้าตาเป็นยังไงสำหรับคุณ?” - อย่ารอให้เจองานแก้สามรอบแล้วค่อยบ่น ให้ถามตั้งแต่ต้น เพื่อให้เขานิยาม “สำเร็จ” ออกมาด้วยตัวเอง จากนั้น คุณแค่ทำให้เขาได้สิ่งนั้น 5. จบข้อเสนอด้วย “ตัวเลขที่ไม่ลงตัว” เสนอราคา 4,975.50 บาท แทนที่จะเป็น 5,000 บาท มันบอกโดยนัยว่า “นี่คือราคาที่ผ่านการคิดมาอย่างละเอียดแล้ว” และทำให้ข้อเสนอของคุณดูสมจริงและยากจะต่อรอง 6. ติดฉลาดให้อารมณ์ลบเพื่อปลดพิษของมัน - เมื่อเจอลูกค้าที่โมโห อย่าพยายามอธิบาย จงสะท้อนอารมณ์ เช่น “ดูเหมือนว่าคุณรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่แฟร์เลย” เขาจะเริ่มสงบ เพราะรู้ว่าคุณเข้าใจก่อนที่คุณจะแก้ปัญหา 7. เข้าใจ...แต่ไม่ต้องเห็นด้วย - พูดว่า “ผมเข้าใจว่าคุณรู้สึกว่างานนี้มันด่วนมาก” โดยที่ไม่ต้องยอมรับว่า “มันควรด่วนจริงๆ” นี่คือการรับรู้อารมณ์ ไม่ใช่การยอมจำนน “Empathy ไม่ใช่การยอม...แต่มันคือการจับใจคนให้ได้ก่อนจับประเด็น” ผู้เขียน: Chris Voss, Tahl Raz (คริส วอสส์, ทาล ราซ) สำนักพิมพ์: วีเลิร์น (WeLearn) #จิตวิทยาการสื่อสาร #เข้าใจแต่ไม่ต้องเห็นด้วย #ศิลปะแห่งการพูด #คิดก่อนตอบ #krapalmหนังสือซื้อแล้วอ่านด้วย

📖✨ 9 ข้อคิด จากหนังสือ | จงอนุญาตให้ตัวเองเป็นเป็ดน้อยที่ไม่ต้องได้คะแนนเต็ม 100 ตลอดเวลา 1. อย่าร่วมมือกับคนอื่นเพื่อตำหนิตัวเอง - เมื่อถูกคนอื่นตำหนิหรือเกลียด สิ่งที่แย่ที่สุดคือการที่เรา “เห็นด้วย” กับเขา แล้วหันกลับมาซ้ำเติมตัวเอง...สิ่งสำคัญคือ เราต้องอยู่ข้างตัวเอง 2. ความสัมพันธ์ที่ดีจะไม่พังเพราะการโต้เถียง แต่จะพังเพราะการ “หลีกเลี่ยง” ไม่คุยกัน 3. เหตุผลหนึ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงไปถึงจุดนั้นได้ ไม่ใช่แค่เพราะเขาขยัน แต่เพราะเขา “ไม่สิ้นเปลืองเวลาไปกับการสงสัยในตัวเอง” 4. อย่าพยายามเปลี่ยนคนอื่น - เคล็ดลับที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง คือการ “อย่าเปลี่ยนแปลงคนอื่น” 5. อนุญาตให้ตัวเองเริ่มต้นจากความ “ห่วย” - ไม่ว่าจะเป็นการย้ายสายงานใหม่ เรียนรู้ทักษะใหม่ หรือรับตำแหน่งใหม่ ยอมรับว่าตัวเองยัง “ห่วย” ในตอนเริ่มต้น คือก้าวแรกที่จำเป็นที่สุดของการพัฒนา 6. กล้าที่จะเป็นตัวเอง (แม้จะถูกเกลียด) - ความกล้าที่จะซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่คุณเป็นจริงๆ ท่ามกลางแรงกดดันของที่ทำงาน ครอบครัว หรือสังคม ที่คาดหวังให้คุณเป็นอีกแบบ 7. ชีวิตเรามีช่วงเวลาดีๆ ตั้งมากมายให้สิ้นเปลืองได้ - อนุญาตให้เรากล้าที่จะ “สิ้นเปลืองเวลา” ไปกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลบ้าง 8. เป็นที่พึ่งให้ตัวเอง - แม้ในเวลาที่ถูกคนอื่นเกลียด สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องไม่ทอดทิ้งตัวเอง และยังคงอยู่เคียงข้างตัวเองเสมอ 9. ตระหนักว่าตัวเองสำคัญที่สุด - ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรที่บีบคั้นแค่ไหน ให้เตือนสติตัวเองไว้เสมอเป็นอันดับแรกว่า “ตัวฉันสำคัญมาก” และความรู้สึกของเราต้องมาก่อน ผู้เขียน: สวีม่านม่านซินหลี่ฮว่า สำนักพิมพ์: Springbooks #คำคมชีวิตจริง #เติบโตทางใจ #รักตัวเองก่อน #เยียวยาหัวใจ #krapalmหนังสือซื้อแล้วอ่านด้วย

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ | พลิกโชคชะตา ด้วยวิธีคิดแบบเถ้าแก่จีนยุคใหม่

ฉันไม่อยากเป็น “ที่รักของใคร” ถ้าการเป็นที่รัก ต้องแลกกับการหายไปจากตัวเอง 🕊️ ความรักที่ดี ไม่ควรต้องทำให้เราละทิ้งตัวตน เพื่อไปพอดีกับความฝันของใคร เพราะสุดท้าย... มันไม่มีประโยชน์เลย ถ้าในฝันของเขามีเรา แต่ในชีวิตจริง “เราไม่เหลือตัวเอง” 🌧️ คุณล่ะ...เคยไหมที่ “รักมากจนหายไปจากตัวเอง”? 💭 📚 หนังสือ Somewhere in the middle of ME - ใครสักคนในตัวตนของฉัน #คำคมชีวิต #ความรัก #รักตัวเอง #เติบโตจากความเจ็บปวด #krapalmหนังสือซื้อแล้วอ่านด้วย

เมื่อมีเงินโอนเข้ามาในบัญชี.... ว่าแต่ใครโอนมา ?

บางการลาจาก…มันไม่เหมือนผู้ใหญ่หรอก มันเหมือนเด็กสองคนที่ยังอยากเล่นด้วยกัน แต่ต้องกลับบ้านเพราะฟ้ามืดแล้ว ความผูกพันบางแบบ… มันไม่ได้ขาด เพราะหมดรัก แต่มันค่อย ๆ เลือน เพราะ “ถึงเวลาแยกย้าย” #krapalmหนังสือซื้อแล้วอ่านด้วย #คำคมความรัก #คำคมเศร้า #ข้อคิดชีวิต #ความสัมพันธ์

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT