[แนะนำ] Microsoft Suface 2 สเปค, จุดเด่น, ฟีเจอร์ และความแตกต่างเมื่อเทียบกับSurface RT

BlueSurface

ช่วงนี้มีแท็บเล็ตเปิดตัวใหม่หลายรุ่นด้วยกันมีทั้งฝั่ง Android, iOS, Windows Phone หรือแม้แต่ Windows 8/8.1 ไมโครซอฟท์เองก็พึ่งเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของตัวเองไป นั้นคือ Surface 2 และ Surface Pro 2 เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก Surface รุ่นแรก

ย้อนกลับไปวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวแท็บเล็ตของตัวเองที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 โดยใช้ชื่อว่า Microsoft Surface แน่นอนว่านับจากวันนั้นเป็นต้นมา เป็นการแสดงให้เห็นความชัดเจนของไมโครซอฟท์ในตลาดแท็บเล็ต ว่าพวกเขาพร้อมลุยตลาดนี้อย่างจริงจัง

SUR_RT_Touch_Cyan_FrontDet

Surface รุ่นแรกมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ Surface RT ซึ่งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows RT + Office Home & Student 2013 RT และ Surface Pro มาพร้อม Windows 8 Pro ทั้ง 2 รุ่นมีวางจำหน่ายในไทยเป็นที่เรียบร้อย

ต่อมาคือ Surface 2 (หรือ Gen 2) ตัวนี้พึ่งเปิดตัวไป และวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา วางจำหน่ายพร้อมคียบอร์ดทั้งแบบ Type Cover 2 และ Touch Cover 2 มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 32 GB และ 64 GB ราคาเริ่มต้นที่ 14,500 บาท มีวางจำหน่ายที่ร้านบานาน่า ไอที, ไอที ซิตี้ และ ทรู ช้อป รวมทั้งสิ้น 65 แห่งทั่วประเทศ

SUR_RT_TouchStand_White_FrontAng

Surface 2 ยังคงใช้หน้าจอตัวเดิม ขนาดเท่าเดิมคือ 10.6 นิ้ว แต่เพิ่มความละเอียดเป็นจอ Full HD 1080p ปรับชิปประมวลผลเป็น Tegra 4 ความเร็ว 1.8GHz แรม 2GB เท่าเดิม บางลงจาก 9.38 มม. เหลือ 8.9 มม. มีขาตั้งสามารถปรับระดับได้ 2 ระดับที่ 20 องศา และ 40 องศา ที่สำคัญแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 25%

นอกจากนั้น Surface 2 ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 RT ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด (ของแท้) พร้อมด้วย Office 2013 RT สำหรับทำงานด้านเอกสารด้วยโปรแกรมที่พวกเราคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทั้ง Word, Excel, Power Point สำหรับคนทำงานออฟฟิต ยังมีโปรแกรม Outlook RT เพิ่มเข้ามาให้ สำหรับจัดการเรื่องรับส่งอีเมล

SUR_RT_Touch_Black_FrontAtt

ยังไม่พอ Surface 2 มี Best of Skype สำหรับโทรฟรีเข้าโทรศัพท์บ้านกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และสามารถใช้ Skype WiFiฟรี ที่สำคัญไปกว่านั้นจะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูล SkyDrive อีก 200GB (ถ้าจำไม่ผิดคือนาน 2 ปี)

ตารางเปรียบเทียบสเปก SURFACE RT และ SURFACE 2


Surface2

กำลังมองหาอุปกรณ์แท็บเล็ตอะไรสักอย่างที่เข้ามาช่วยเติมช่องว่างในการทำงานให้คนไม่ต้องยึดติดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุค Suface 2 คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป

ถ้าเรามีงบประมาณจำกัด และความต้องการในการใช้งานของเราแค่ ใช้ท่องเว็บ, อ่านข่าว, เล่น Social Network, ตอบอีเมล, ส่งอีเมล พิมพ์งานเอกสาร, แก้ไขเอกสาร, ตรวจงาน, ทำเอกสารนำเสนองาน, ทำตารางคำนวนต่างๆ พวกนี้ไม่จำเป็นต้องสเปกแรงๆ แค่ Surface 2 ก็สามารถทำได้ทั้งงหมดที่กล่าวมาแล้ว

BlackSurface

ข้อดีของ Suface 2 คืออะไร ?




ข้อดีของแท็บเล็ต Surface 2 คือมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น Windows มากกว่า Mac OS หรือ Linux ด้วยสาเหตุนี้ทำให้เราแทบจะไม่ต้องปรับตัวในการใช้งานเลย แค่เรียนรู้นิดหน่อย เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถใช้ทำงานได้เลย

2efe74e7-9700-40fe-b5f8-1c6fbb8477d7_12

ด้วยการรองรับโปรแกรมต่างๆ ที่เราเคยใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะท่องเว็บ เช็คเมล เล่นเกมส์หรือแม้แต่งานเอกสารต่างๆ ก็ทำได้เทียบเท่า Notebook เครื่องนึงเลยทีเดียว และยังรองรับโปรแกรม Office 2013 โปรแกรมการทำงานด้านเอกสารที่เราคุ้นเคย ทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งนักเรียนนักศึกษาใช้จดบันทึกระหว่างเรียน หรือพิมพ์รายงานส่งอาจารย์

9decbfc0-a8b7-44ee-aaee-6d67d5df36ae_24

สำหรับคนทำงานตัวนี้ยิ่งตอบโจทย์การทำงานของเรามาก เราสามารถแก้ไขงานเอกสารได้ทุกที ยก Surface 2 ไปให้หัวหน้าตรวจงานผ่านหน้าจอเลยยังได้ หรือจะใช้สร้างเอกสารนำเสนองาน ระหว่างนำเสนอหากเจอจุดที่ผิดพลาดก็สามารถแก้ไขได้ทนที เหมือนมี คอมพิวเตอร์ติดตลอดเวลา

แม้ประชุมอยู่ คุณก็สามารถแก้ไขงานได้ทันที ก็เป็นการตอบโจยท์พฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่ในวัยทำงานหลายๆ ท่านครับ

การอัพเกรดเป็น Windows เวอร์ชั่นใหม่


จุดนี้หายห่วงครับ Surface 2 มาพร้อมกับ Windows RT 8.1 ไม่ต้องอัพเกรดใดๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ไมโครซอฟท์ออก Windows เวอร์ชั่นใหม่มา และเวอร์ชั่นดังกล่าวถูกพัฒนามาให้รองรับ Surface 2 ก็จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows เวอร์ชั่นดังกล่าวได้แน่นอน และที่สำคัญมันเป็น Windows แท้ 100% ครับ

ac371d01-ef1a-4256-943d-dcbfc8bb9680_24

ก็หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อตัวไหนดี ถ้าใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากติดตามข่าวสาร พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้งาน ข้อมูลโปรโมชั่น หรือสอบถามว่าร้านไหนมีจำหน่ายบ้าง สามารถเข้าไปได้ที่

Advertisement


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami