Allwinner A33 ซีพียู Quad-core ราคา 129 บาท รุ่นแรกของโลก

Allwinner A33 ซีพียู Quad-core ที่ชูจุดเด่นด้านราคา เชื่อมไหมว่าซีพียูตัวนี้ราคา 4 ดอลลาร์เท่านั้น (ประมาณ 129 บาท) โดย Allwinner  ได้เริ่มต้นการผลิตเป็นจำนวนมากในเดือนกรกฎาคม
 
โดยชิป A33 จะผลิตมาเพื่อใช้สำหรับแท็บเล็ต ซึ่งจะรองรับแท็บเล็ตความละเอียดและขนาดที่หลายหลาย (6.95 นิ้ว, 7 นิ้ว, 7.85 นิ้ว เป็นต้น) คาดว่าแท็บเล็ตที่ใช้ชิป Allwinner A33 จะราคาตั้งแต่ 30 – 60 ดอลลาร์



Allwinner A33 มีเป้าหมายเจาะแท็บเล็ตในตลาดล่าง โดยเป็นซีพียู Quad-core Cortex-A7 ที่ประหยัดไฟ และชิปกราฟฟิกรุ่น Mali-400MP2 (ที่ผ่านการทดสอบแล้ว)
 
สำหรับฟีเจอร์ของ Allwinner A33 นั้นมีดังต่อไปนี้

  • สามารถใช้พินเดียวกับชิปดู dual-core A23 ได้
  • Cortex-A7 และ Mali-400MP2 จำนวน 4 แผง
  • เล่นและถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p ได้
  • ตัวควบคุม MIPI DSI แบบผสมผสาน ความละเอียดสูงสุด 1280x800 พิกเซล
  • เทคโนโลยีแสดงผล SmartColor
  • ตัวแปลงสัญญาณเสียงไฮไฟแบบผสมผสาน
  • กินไฟต่ำ สแตนด์บายได้นาน 300 ชั่วโมง

เทคโนโลยีแสดงผล SmartColor

ชิป Allwinner A33 มีอัลกอริทึมในการประมวลผลรูปภาพที่ใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการมองที่สวยงามและต้องตามากขึ้น สมจริง โดยเฉพราะสีผิวของมนุษย์ เดิมทีไม่มีฟังก์ชั่นคุมสีผิวมนุษย์ ทำให้สีผิวถูกปรับไปพร้อมกันพื้นที่ส่วนอื่นๆของรูป

ซึ่งทำให้สีผิวของคนเกิดการอิ่มตัวมากเกินไป (over-saturated) และไม่เป็นธรรมชาติ SmartColour จึงทำหน้าที่ปรับค่าความอิ่มตัวของภาพและการคุมโทนผิว
 

การเล่นและถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p


การประมวลผลวิดีโอนับเป็นขีดความสามารถในการแข่งขันของหน่วยประมวลผลของ Allwinner มาโดยตลอด Allwinner A33 จึงใส่เอ็นจินวิดีโอยุคใหม่ที่รองรับการเปิดและการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p ที่ 60fps

จากการทดสอบโดย Antutu Video Tester ซึ่งเป็นเครื่องมือจาก Antutu ที่ทดสอบความสามารถในการประมวลผลวิดีโอได้อย่างรวดเร็วนั้น พบว่า แท็บเล็ตที่ใช้ Allwinner A33 รักษาระดับคะแนนไว้ที่ราว 500 คะแนนได้อย่างต่อเนื่อง (ยิ่งคะแนนสูง แสดงว่าประมวลผลวีดีโอดี)

ใช้ไฟต่ำเป็น สแตนด์บายได้นาน 300 ชั่วโมง


 Allwinner A33 กินไฟต่ำ โหมด Talking Standby ที่ไม่เหมือนใครซึ่งทำให้ใช้ไฟต่ำมากเป็นพิเศษในระหว่างโทรศัพท์ด้วยเสียง

แบตเตอรี 4,000 mAh แท็บเล็ตที่ใช้ A33 จะสามารถเปิดสแตนด์บายได้นาน 300 ชั่วโมง หรือเทียบเท่า 6.5 ชั่วโมงของการเปิดเล่นวิดีโอ 1080p จากในเครื่อง (ผลการทดสอบ)


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami