สมาคม Contact Center World ยกให้ AIS Contact Center คว้า 2 รางวัลระดับโลก

อีกหนึ่งรางวัลแห่งความภูมิใจส่งท้ายปี AIS โดย AIS Contact Center ในฐานะตัวแทนของทวีปเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วมงาน 14th ANNUAL GLOBAL AWARDS จัดโดยสมาคม Contact Center World เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน และสร้างชื่อเสียงในระดับโลก คว้า 2 รางวัลใหญ่ Best Contact Center 2019 และ Best use of Social Media in the Contact Center 2019 จากการที่ AIS Contact Center ได้รับรางวัลในครั้งนี้ มีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในทำเนียบ Top 10 World Rankings จากทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพงานบริการขององค์กรจากประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับ
อยู่ในมาตรฐานระดับโลก

  นางสาวใจพร ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ คอนแท็คเซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า "หลังจากที่ AIS Contact Center สามารถคว้ารางวัลเหรียญทองระดับนานาชาติ จากเวทีการประกวด Contact Center World Award 2019 รอบการแข่งขันตามกลุ่มทวีป จนได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนของทวีปเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วมการแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ในที่สุด AIS Contact Center สามารถสร้างชื่อเสียงด้วย


การคว้ารางวัล Best Contact Center 2019 และ Best use of Social Media in the Contact Center 2019 มาครองได้นั้น ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรที่ต้องการพัฒนางานบริการด้วยคุณภาพสูงสุดอยู่เสมอ สะท้อนให้เห็นในทุกๆ มิติของงานบริการด้วยความเป็นมืออาชีพระดับชั้นนำที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าในทุก Generation ด้วยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมผสานใจของพนักงาน
ที่ผ่านการฝึกฝน พัฒนาทักษะจนสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยอดเยี่ยมจนได้รับความไว้วางใจในระดับโลก ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดต่อไป
"


          งาน 14th ANNUAL GLOBAL AWARDS ในปีนี้ ได้รับความสนใจจากองค์กรธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกกว่า 1,600 บริษัท ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โดย AIS เป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวของไทยที่สามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จ ทั้งนี้ สมาคม Contact Center World ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เป็นองค์กรระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในด้านการค้นคว้าวิจัยและเผยแพร่ผลงานทางด้าน Contact Center และ Customer Engagement มาอย่างต่อเนื่องมา
กว่า
20 ปี ปัจจุบัน ได้รับการยอมรับจากตัวแทนองค์กรต่างๆ ทั่วโลก เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้วกว่า 205,000 คน 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami