Booking.com เปิดตัว CityBook แอปพลิเคชั่นรุ่นทดลอง เวอร์ชั่นใหม่ที่อัมสเตอร์ดัม ลอนดอน และปารีส

Booking.com หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการเดินทางดิจิตอลของโลกซึ่งมีพันธกิจในการช่วยให้ทุกคนออกไปสัมผัสโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ได้ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชั่นรุ่นทดลองเวอร์ชั่นใหม่อย่าง "CityBook" ในวันนี้ โดยมุ่งหวังให้แอปพลิเคชั่นนี้เป็นคู่มือดิจิตอลสำหรับสำรวจและท่องเที่ยวในเมืองต่าง ๆ ที่ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ โดยผสานคุณสมบัติต่าง ๆ ไว้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ การวางแผน การบอกเส้นทาง ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวทั้งหมดได้ในที่เดียว ซึ่งการเปิดตัว "CityBook" ครั้งแรกนี้เกิดขึ้นในปารีส กรุงลอนดอน และอัมสเตอร์ดัม


  

     


CityBook จะมุ่งเน้นความสนใจทั้งหมดไปที่การช่วยเหลือผู้เดินทางเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการมอบคำแนะนำที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสนใจ พร้อมทั้งแสดงข้อเสนอพิเศษและส่วนลดในท้องที่ต่างๆ หรือมอบข้อมูลที่จะช่วยให้ผู้เดินทางคุ้นเคยกับเมืองเพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยให้ Booking.com เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่าสิ่งใดในจุดหมายนั้น ๆ ที่สำคัญมากที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการ โดยส่วนของผลิตภัณฑ์ เนื้อหา และฟีเจอร์ของ CityBook ที่ผู้ใช้บริการชื่นชอบมากที่สุด จะถูกนำไปปรับใช้กับแอปพลิเคชั่นหลักของ Booking.com เพื่อพัฒนาวิสัยทัศน์ของ Booking.com ในการช่วยเหลือด้านตัวเลือกสำหรับลูกค้า เพื่อมอบความสะดวกง่ายดายตลอดการเดินทางของผู้ใช้งาน

ด้วยการนำโมเดล Machine Learning มาปรับใช้โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ผู้เดินทางอยู่ ลักษณะของกลุ่ม (เป็นครอบครัว คู่รัก หรือเดินทางคนเดียว) ช่วงเวลาในทริป (วันแรกหรือวันสุดท้ายของทริป) ไปจนถึงสภาพอากาศและความเป็นไปได้ในการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ แบบเรียลไทม์ จึงทำให้ CityBook สามารถมอบคำแนะนำที่อิงตามปัจจัยเหล่านี้ เพื่อช่วยให้ผู้เดินทางเพลิดเพลินกับทริปได้เต็มที่ ซึ่งรวมถึงวิธีเดินทางกลับที่พักจากจุดต่าง ๆ ในเมืองอีกด้วย เทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อน CityBook ได้รวบรวมทุกการค้นคว้าข้อมูลด้านการเดินทางที่มีประโยชน์ไว้ในที่เดียว พร้อมมอบคำแนะนำให้ทันทีแบบเรียลไทม์ ผู้ใช้งานจึงแทบจะไม่จำเป็นต้องวางแผนทริปล่วงหน้าเป็นเวลานาน ๆ เลย


 
"เราต้องการดึงเอาทุกโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ ในจุดหมายปลายทางทั่วโลกมาไว้ในที่เดียวด้วย CityBook" แรม แพพาทลา รองผู้จัดการใหญ่ฝ่ายโกลบอล เอ็กซ์พีเรียนซ์ ของ Booking.com กล่าว "การต้องค้นหากลับไปกลับมาบนโลกออนไลน์ หลายเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น จนกว่าจะได้ข้อมูลที่ดีที่สุด แล้วหลังจากนั้นยังต้องจองทุกอย่างแยกต่างหากอีก ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกและมีขั้นตอนยุ่งยากอีกด้วย เราจึงต้องการช่วยให้ผู้คนได้มุ่งเป้าไปที่ความสนุกในการวางแผนเที่ยว สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยการช่วยให้นักเดินทางสามารถจองและจัดการทริปได้ในพริบตา ด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้ซึ่งล้วนแต่เปิดให้จองได้ด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง และมีการจัดระเบียบทุกอย่างไว้ให้ใช้อย่างสะดวกได้ในที่เดียว"

"การลองใช้ฟังก์ชั่นใหม่ ๆ และสัมผัสประสบการณ์ที่สามารถเชื่อมโยงกับจุดหมายนั้นๆ ได้มากยิ่งขึ้นระหว่างทริป ผ่านทางแอปพลิเคชั่นรุ่นทดลองอย่าง CityBook ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถเรียนรู้และตอบสนองต่อความต้องการในรูปแบบเดิม ในเวลาที่รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น" แรม แพพาทลา กล่าวเพิ่มเติม "แอปพลิเคชั่น CityBook จะถูกพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกโดยเรียนรู้จากวิธีการใช้งานของผู้เดินทาง ซึ่งเราคิดว่าหลายๆฟีเจอร์ จะมีโอกาสถูกนำไปปรับใช้กับแอปพลิเคชั่นหลักของ Booking.com"



ไม่ว่าลูกค้าจะชอบอุปกรณ์หรือแพลตฟอร์มใด ก็สามารถเชื่อมต่อข้อมูลด้านการเดินทางทั้งหมดได้ โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นสำหรับ แอนดรอยด์ หรือ iOS หรือเพียงไปที่เว็บไซต์ของ CityBook ผ่านทางเดสก์ท็อป โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต เมื่อลูกค้าเข้าสู่ระบบด้วยแอคเคาท์ Booking.com แล้วก็สามารถสำรวจข้อมูล วางแผน และสัมผัสประสบการณ์ที่เมืองนั้น ๆ โดยทำทุกอย่างนี้ได้ในแบบที่ตัวเองต้องการได้เลยทันที

ขณะนี้ CityBook มีให้บริการในภาษาอังกฤษ สำหรับอัมสเตอร์ดัม ลอนดอน และปารีส ส่วนเมืองอื่น ๆ ซึ่งได้แก่ โตเกียว ปารีส นิวยอร์กซิตี้ เบอร์ลิน บาร์เซโลนา และโรมนั้นมีกำหนดจะเปิดตัวแอปในเดือนต่อๆ ไปหลังจากนี้ ซึ่งเมื่อแอปพลิเคชั่นพร้อมให้ใช้งานแล้ว สำหรับลูกค้าของ Booking.com ที่วางแผนจะเดินทางจะได้รับคำเชิญให้ทดลองใช้ CityBook ในทริปที่กำลังจะมาถึง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami