VLOG เทรนด์ใหม่ของวิดีโอที่ใครก็ถ่ายได้ กับ 5 เทคนิคถ่ายยังไงให้ยอดวิวถล่มทลาย

ในปีที่ผ่านมาหลายๆ คนคงจะได้เห็นเทรนด์การถ่าย Vlog ตามโซเชียลมีเดียกันมาพอสมควร โดย Vlog มาจากคำว่า Video บวกกับ Log (ออกเสียงว่า วล็อก หรือ วีล็อก) เป็นการบันทึกวิดีโอเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ความชอบ กิจกรรมต่างๆ หรือตามติดวิถีชีวิตประจำวัน เน้นถ่ายทำจากสถานการณ์จริงด้วยวิธีการถ่ายทำง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใช้แค่สมาร์ทโฟนก็ได้ และด้วยความไม่ยุ่งยากนี้เองทำให้ใครๆ ก็สามารถถ่าย Vlog ของตัวเอง เพื่อแชร์ไลฟ์สไตล์ สิ่งที่สนใจ หรือสะท้อนตัวตน ได้อย่างง่าย แต่ถ้าอยากให้ Vlog น่าสนใจ ยอดวิวถล่มทลาย ต้องลองใช้ 5 เทคนิคนี้ดู


 

1. เลือกหัวข้อที่เราถนัดหรือคุ้นเคย และแชร์มุมมองที่โดดเด่นออกมา เพราะการที่เรามีความถนัดหรือประสบการณ์ไม่เหมือนใครจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและดึงดูดผู้ชมได้ เช่น ชอบท่องเที่ยวต่างประเทศแล้วถ่าย Vlog สถานที่ท่องเที่ยว unseen ของประเทศนั้นๆ
 

2. ไม่ใช่แค่คุยกับกล้อง แต่ต้องเล่าเรื่องราว การถ่าย Vlog ที่ดีจะต้องมีการจัดลำดับเรื่องราวในการเล่า รวมถึงการคัดเลือกเนื้อหาหรือซีนที่เป็นไฮไลท์สำคัญๆ เพื่อให้ผู้ชมติดตามดูวิดีโอจนจบ โดยโหมดหรือฟังก์ชั่นต่างๆ ของสมาร์ทโฟนก็มีส่วนช่วยให้ภาพออกมาสวยงามน่าติดตามมากยิ่งขึ้น หลักการง่ายๆ เพียงแค่ตั้งคำถามว่า เรากำลังเล่าเรื่องอะไรอยู่? และ ต้องการเล่าเรื่องอะไรให้ผู้ชมดู? เพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเรียงลำดับเรื่องราวและเลือกวิธีการเล่าเรื่องที่เหมาะสม
 

3. เรื่องตลกช่วยได้เสมอ! ใครบ้างล่ะที่จะไม่ชอบเรื่องตลกขำขัน การที่มีเทคนิคการถ่ายทำหรือเอฟเฟ็กต์แปลกๆ ในสมาร์ทโฟนจะช่วยเพิ่มความสนุกของ Vlog ได้ เช่น เอฟเฟ็กต์ Super slow-motion หรือ AI Colour Filter การดูดสีพื้นหลังให้ต่างจากวัตถุใน HUAWEI Mate 30 Pro
 

4. คุณภาพของวิดีโอยังคงสำคัญ ด้วยความที่เทคโนโลยีในปัจจุบันล้ำหน้ามาก ทั้งศักยภาพของอุปกรณ์ต่างๆ หน้าจอความละเอียดสูง แม้กระทั่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้ผู้ชมในปัจจุบันเลือกที่จะรับชมวิดีโอที่ภาพคมชัด และพร้อมที่จะปิดวิดีโอที่ความละเอียดต่ำได้ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ Vlog โดนเมิน อย่าลืมเลือกใช้สมาร์ทโฟนที่มีกล้องคมชัด ถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงระดับ 4K ได้


5. เปิดประตูออกไปสำรวจเรื่องราวใหม่ๆ การถ่าย Vlog ในสตูดิโอหรือห้องนอนอย่างเดียวดูจะเป็นการอุดอู้อยู่กับที่เกินไป พาผู้ชมไปเปิดหูเปิดตาพร้อมๆ กันกับคุณ และยิ่งมีสมาร์ทโฟนที่มีกล้องทรงพลังอย่าง HUAWEI Mate 30 Pro ก็ยิ่งทำให้การถ่ายทำนอกสถานที่เป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ต้องพกอุปกรณ์ให้เกะกะ ไม่ว่าจะเป็นวิวหรือแสงน้อยก็สามารถเก็บได้ทุกภาพความประทับใจ
 

เห็นไหมว่าจริงๆ การถ่าย Vlog ให้สนุกไม่ได้ยากเท่าที่คิด หยิบสมาร์ทโฟนคู่ใจขึ้นมาเปิดโหมดถ่ายวิดีโอแล้วมาเก็บความทรงจำไปพร้อมๆ กัน และสำหรับคนที่ชอบเล่าเรื่องราวผ่านวิดีโอ หัวเว่ยได้จัดการประกวดภาพยนตร์ระดับภูมิภาค HUAWEI Film Awards 2019 เปิดรับสมัครทั้งคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ และนักสร้างสรรค์มือสมัครเล่นที่ชื่นชอบบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วยสมาร์ทโฟน โดยสามารถส่งภาพยนตร์ความยาวไม่เกิน 10 นาที ถ่ายทำด้วยสมาร์ทโฟนหัวเว่ย ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 22.59 น. ตามเวลาประเทศไทย และรายชื่อของผู้ชนะรางวัลทั้งหมดจะประกาศในวันที่ 6 มีนาคม 2563

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของการประกวดภาพยนตร์ HUAWEI Film Awards รวมถึงกติกา เงื่อนไข และวิธีการเข้าประกวด ได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/campaign/film-awards/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami