เอไอเอส ผนึก รัฐบาล-กสทช. มอบเน็ตมือถือ 10 GB เน็ตบ้านเป็น 100 Mbps ฟรี! นาน 30 วัน

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า "สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ ทำให้ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ตลอดจนการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ซึ่งทำให้ความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารเข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น

ดังนั้น เอไอเอส ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่มีเป้าหมายในการนำ Digital Infrastructure เข้ามาสนับสนุนทุกภาคส่วนของประเทศ จึงได้ร่วมมือกับ รัฐบาล และ กสทช. ส่งมอบความห่วงใยให้กับคนไทยในสถานการณ์ COVID-19 มอบฟรี! เน็ตบนมือถือ 10 GB


สำหรับลูกค้าเอไอเอสที่มีแพ็กเกจหลักใช้งานเน็ตไม่เกิน 10 GB และอัปสปีดเน็ตบ้านเพิ่มเป็น 100 Mbps สำหรับลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ ที่ใช้แพ็กเกจเน็ตบ้านความเร็วไม่ถึง 100 Mbps เพื่อแบ่งเบาภาระและอำนวยความสะดวกให้คนไทยสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างไร้รอยต่อ ไร้กังวล ทั้งนี้ เอไอเอสได้เตรียมความพร้อมรองรับการลงทะเบียนของลูกค้าไว้เป็นอย่างดี ตลอดจนเพิ่ม Capacity เครือข่ายเป็น 3 เท่า เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในสถานการณ์ COVID-19 เช่นกัน"

ลูกค้ามือถือเอไอเอสทั้งระบบรายเดือนและเติมเงิน ที่เบอร์มีสถานะการใช้งานปกติ (Active) โดยยกเว้น ลูกค้าระบบรายเดือนที่แพ็กเกจหลัก มีเน็ตใช้งาน =>10 GB หรือใช้เน็ตไม่จำกัด หรือ Nu Mobile สามารถลงทะเบียนรับเน็ต 10 GB ฟรี เพียงกด *170*หมายเลขประจำตัวประชาชน# แล้วกดโทรออก ตั้งแต่ 8.00 น. วันที่ 10 - 30 เมษายน 2563

และใช้งานเน็ตได้นาน 30 วัน หลังได้รับ SMS ยืนยัน โดยสงวนสิทธิ์ 1 คน /1 สิทธิ์ / ทุกเครือข่าย (กล่าวคือ ไม่ว่าจะถือหมายเลขโทรศัพท์กี่เบอร์กี่ค่ายก็จะได้รับเพียง 1 สิทธิ์ ตามกำหนดของ กสทช.) และต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่ลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2563

สำหรับลูกค้าเน็ตบ้านเอไอเอส ไฟเบอร์ ที่ใช้แพ็กเกจเน็ตบ้าน ที่มีความเร็วไม่ถึง 100 Mbps จะได้รับการอัปสปีดเป็น 100 Mbps สำหรับผู้ใช้ผ่านสายไฟเบอร์ออปติก (FTTH) ถ้าความเร็วที่ใช้อยู่ไม่ถึง 100 Mbps จะ Up Speed ให้เป็น 100 Mbpsและสำหรับผู้ใช้ ผ่านสายทองแดง (FTTB) จะ Up speed ให้สูงสุดเต็มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ สงวนสิทธิ์ 1 สิทธิ์ รวมทุก Operator และต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่เปิดใช้งานภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563

โดย กสทช.จะคัดเลือกแอคเคาท์ที่ตรงตามเงื่อนไข หากลูกค้ามีหลายแอคเคาท์ กสทช.จะเลือกแอคเคาท์ที่มีวันติดตั้งล่าสุด


Virus-free. www.avg.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami