หูฟัง Mixcder E10 คว้ารางวัล Bronze Stevie(R) Award

Mixcder มีความยินดีที่จะประกาศว่า ผลิตภัณฑ์หูฟัง Mixcder E10 คว้ารางวัล Bronze Stevie® Award ในหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค จากเวทีประกาศรางวัล American Business Awards 2020 ด้วยคุณภาพเสียงอันเหนือชั้นและประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวน (ANC) ระดับผู้นำอุตสาหกรรม


ประสบการณ์ระดับผู้นำอุตสาหกรรมในด้านผลิตภัณฑ์ ANC ส่งผลให้ทีมวิศวกรของ Mixcder สามารถพัฒนา ANC V4 Chip อันทรงพลัง และไมค์ตัดเสียงรบกวนความไวสูง ซึ่งสามารถตัดเสียงรอบข้างความถี่ต่ำได้ถึง 96%






ด้วย Bluetooth 5.0 ที่รองรับ Aptx-LL (ความหน่วงต่ำ) หูฟัง Mixcder E10 จึงให้คุณภาพเสียงความละเอียดสูงคมชัดสมจริงและสมดุล นับเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ นอกจากนั้นยังเป็นหูฟังตัวแรกในตระกูล E-Series ที่มีเทคโนโลยี Mixcder Super Charging (MSC) จึงใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมง และยังใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น





"Mixcder E10 คือก้าวสำคัญในการนำเสนอหูฟัง ANC คุณภาพสูงและคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าทั่วโลก Mixcder E10 อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ ซึ่งจะมอบเสียงระดับพรีเมียมให้แก่นักเดินทางและนักฟังเพลงทุกคน" David Wu ซีอีโอของ Mixcder กล่าว





"รางวัลนี้ไม่ใช่แค่การยอมรับความพยายามของเราในการบรรลุหลักชัยสำคัญนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญของเราในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ด้านเสียงที่ดีที่สุด รวมถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับประสบการณ์การฟังส่วนบุคคล" เขากล่าวเสริม





Mixcder ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้นำเทรนด์และผู้หลงใหลในเสียงดนตรี ทีมวิจัยและพัฒนาของ Mixcder ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงและอิเล็กทรอนิกส์ 30 คน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการยศาสตร์ เสียง และแฟชั่นดีไซน์ และมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการยกระดับประสบการณ์ของผู้ฟัง





ทุกผลิตภัณฑ์ที่ Mixcder ออกแบบ เกิดจากการหลอมรวมนวัตกรรมใหม่ล่าสุดด้านเสียงคุณภาพสูงและเทคโนโลยีไร้สาย โดยยึดมั่นในแนวคิดหลักอันได้แก่ เสียง ความสะดวกสบาย ความสวยงาม และการใช้งาน ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี Mixcder ได้บุกเบิกเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนและ Euphonious Sound อันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อมอบเสียงคมชัดสมจริงและดื่มด่ำเต็มอารมณ์





นอกจากหูฟังรุ่น E10 แล้ว Mixcder ยังมีหูฟัง ANC อีกหลายรุ่น ได้แก่ E7, E8, E9, E9 Pro ซึ่งวางจำหน่ายผ่าน Amazon

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami