Xiaomi ส่ง Mi 10T Series เข้าประกวดสมาร์ทโฟนเรือธงราคาคุ้มค่าแห่งปี

 ในทุกๆ ปี ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของ Xiaomi มักจะได้รับเลือกเป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจในแง่ของความคุ้มค่าอยู่เสมอ โดยการเทียบระหว่างสเปคและราคาจำหน่ายที่มีความสมเหตุสมผลมากที่สุด

 

ในปีนี้ Mi 10T Series เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ทั้งในแง่ของยอดขายและการพูดถึงบนโลกออนไลน์ จนทำให้การรับรู้แบรนด์สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ ในกลุ่มผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

จากข้อมูลสถิติการค้นหาเกี่ยวกับการรีวิวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของ Google Thailand พบว่า Mi 10T Pro กลายเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นเดียวที่ติดท็อป 5 จำนวนการค้นหามากที่สุดประจำปีที่ผ่านมา* ทำให้ตอกย้ำให้เห็นว่าในปี 2020 นี้ Mi 10T Series ได้กลายมาเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นนี้มากเป็นลำดับต้นๆ 


 

เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเรือธงเหมือนกัน Mi 10T Series ให้สเปคและการใช้งานที่ดีกว่า ในราคาที่สมเหตุสมผลกว่าอย่างชัดเจน โดยสามารถทำทำราคาได้ต่ำกว่าเกิน 50% แต่ให้สเปคที่ดีกว่าในหลายแง่มุม ได้แก่

 

ชิปเซ็ตเรือธง รองรับ 5G

Mi 10T Series เลือกใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธงอย่าง Qualcomm Snapdragon 865 5G ที่เก่งกว่า และได้รับการยอมรับให้เป็นชิปเซ็ตที่น่าสนใจที่สุดในช่วงปี 2020 นี้ โดยเฉพาะในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง ตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไม่เพียงเท่านี้ Mi 10T Series ยังเข้ามายกระดับเรือธง ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ในระดับราคาหมื่นต้นๆ เป็นรุ่นแรกๆ ที่สามารถเสียบซิมที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G แล้วใช้งานได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง ในขณะที่เรือธงรองรับ 5G ของแบรนด์อื่นนั้น มีราคาสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

กล้อง 108 ล้านพิกเซล

Mi 10T Pro ยังมาพร้อมกับกล้อง AI ความละเอียดสูงสุดที่ 108 ล้านพิกเซล ทำให้นอกจากสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงแล้ว สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K ได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเรือธงส่วนใหญ่จะเลือกใช้กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล จนถึง 64 ล้านพิกเซลเท่านั้น เช่นเดียวกับการถ่ายวิดีโอที่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4K เป็นหลัก

 

แบตเตอรี่ใหญ่ ชาร์จเร็ว

Mi 10T Series ให้แบตเตอรี่มาจุใจถึง 5000mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว 33W บนเทคโนโลยี MMT ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการชาร์จแบบคู่ขนานทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลา 59 นาที ที่สำคัญ Xiaomi ให้อะแดปเตอร์รุ่นนี้มาในกล่องแบบไม่ต้องซื้อเพิ่มเติม ส่วนเรือธงรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะให้แบตเตอรี่มาราว 4300 - 4500mAh เท่านั้น ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับระบบชาร์จเร็วเพียง 25W จะทำให้ชาร์จพลังงานได้ช้ากว่าอย่างชัดเจน รวมถึงระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่ต่อเนื่องที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.67 นิ้ว FHD+ DotDisplay บนอัตราการแสดงผล (Refresh Rate 144Hz) เหนือกว่าคู่แข่ง ที่เลือกใช้จอแบบ 60Hz - 120Hz

 

ที่สำคัญที่สุด Mi 10T Series โดยเฉพาะ Mi 10T ซึ่งรองรับ 5G ด้วยนั้นราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 12,990 บาท ได้ RAM 8GB ROM 128GB ในขณะที่ Mi 10T Pro 5G รุ่นเริ่มต้น RAM 8GB ROM 128GB วางจำหน่ายอยอยู่ที่ 13,990 บาท เท่านั้น

 

ทั้งหมดนี้ ทำให้ Mi 10T Series ได้ขึ้นมานั่งแท่นเรือธงราคาคุ้มค่าที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งในระดับราคาเกือบ 30,000 บาท ได้สบายๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9 ข้อคิดจากหนังสือ แล้วสักวันเมล็ดพันธุ์อย่างฉันจะงดงาม | เปลี่ยนชีวิตด้วยมุมมองง่าย ๆ

ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา

ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ #โค้ชแมวสอนไว้ทำอย่างไรให้เป็นนายของเงิน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ

วิธีเช็คยอดคงเหลือซิม My by CAT

“การนอกใจเป็นเจตนา ไม่ใช่อุบัติเหตุ” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราถึงนอกใจกัน? หรือทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด? จากหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากครับ 💔 ทำไมถึงยังทน? หลายครั้งที่คนเราไม่ยอมเดินออกมา ไม่ใช่ไม่รักตัวเอง แต่เป็นเพราะความกลัว, ความผูกพัน, ภาระทางการเงิน, ลูก หรืออาจจะกำลังหลอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ 🧠 เบื้องหลังพฤติกรรมนอกใจ ในบางกรณี การนอกใจอาจเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจ เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) ที่ทำให้คนคนนั้นขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องการการยอมรับ และเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ✨ คุณค่าของคุณไม่ได้ลดลงเพราะการกระทำของเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่หนังสือเน้นย้ำคือ การนอกใจเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย ไม่ได้แปลว่าคุณค่าในตัวคุณลดน้อยลง การที่เขาเลือกคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดีพอ แต่สะท้อนถึงปัญหาในตัวของเขาเอง 🚶‍♀️ ทางออกที่ดีที่สุด คือการเดินออกมาเพื่อรักตัวเอง สำหรับคน “ที่เติบโตมาอย่างดีและตระหนักรู้ว่าตนเองมีค่ามีศักดิ์ศรี จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายจิตใจ” การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกที่จะให้เกียรติและเคารพคุณค่าของตัวเอง การจบความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด คือการเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและมีความสุขกว่าเดิมครับ จากหนังสือ | ใครรู้ทัน คนนั้นรอด #ข้อคิดความรัก #จิตวิทยาความสัมพันธ์ #นอกใจ #รักตัวเอง #ความสัมพันธ์ #ให้กำลังใจ

📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami