โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้
ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ | พลิกโชคชะตา ด้วยวิธีคิดแบบเถ้าแก่จีนยุคใหม่
จากหนังสือ The Sadness Alphabet of Us. #เมื่อความรักแตกสลายและกลายมาเป็นตัวอักษร
ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในทันที เพียงแค่เราค่อยๆ เติมเต็มชิ้นส่วนเล็กๆ ทุกวัน ในที่สุดภาพใหญ่ก็จะงดงามเอง 🌈🧩 หนังสือ #ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเรา
📖 9 ข้อคิด จากหนังสือ | คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต 1. ความหิวที่แท้จริง อาจไม่ใช่ความหิวของกระเพาะ แต่เป็นความหิวของหัวใจ - หลายครั้งเรากินเพื่อปลอบประโลมความรู้สึกว่างเปล่า ความเหงา หรือความเครียด 2. ความเหนื่อยล้าที่ไม่หายไป คือสัญญาณเตือนจากร่างกาย - เพราะมันคือเสียงกระซิบเตือนว่าเรากำลังใช้พลังงานชีวิตเกินขีดจำกัด ไม่ว่าจะจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุล 3. ยิ่งพยายามจะหลับ สมองก็จะยิ่งตื่นตัว - เพราะการนอนหลับที่ดีเกิดจากการ ”ผ่อนคลาย“ ไม่ใช่การ ”บังคับ“ การปล่อยวางความกังวลว่าจะต้องหลับให้ได้ คือก้าวแรกของการนอนหลับฝันดี 4. ท้องไส้ที่ปั่นป่วน คือภาพสะท้อนของจิตใจที่วุ่นวาย - เพราะร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกันโดยตรง ความเครียดที่เราแบกรับไว้มักแสดงอาการออกมาผ่านระบบย่อยอาหารเป็นอันดับแรกๆ 5. ผลตรวจ ”ปกติ“ ไม่ได้แปลว่าความทุกข์ทรมานของเรา ”ไม่จริง“ - เพราะหลายความเจ็บป่วย เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือความอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย 6. ”แรงงานทางอารมณ์“ คือต้นทุนสุขภาพที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายต้องจ่ายจริง - การต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงและแสดงออกแต่รอยยิ้มเพื่อการทำงาน คือความเครียดสะสมที่บั่นทอนสุขภาพร่างกายอย่างช้าๆ 7. ระวัง ”วงจรอุบาทว์ของการสั่งยา“ - คือสถานการณ์ที่ผลข้างเคียงของยาตัวที่หนึ่ง ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคใหม่ จนแพทย์สั่งยาตัวที่สองมารักษา กลายเป็นวงจรการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและอันตราย 8. นอนน้อยแล้ว ”ง่วง“ คือพักผ่อนไม่พอ, นอนน้อยแล้ว ”ไม่ง่วง“ คือสัญญาณของโรคนอนไม่หลับ - คนที่พักผ่อนไม่พอจะโหยหาการนอนในตอนกลางวัน แต่ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมักจะตื่นตัวแม้จะนอนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า 9. การไดเอทที่หักโหม คือสงครามกับร่างกายที่ไม่มีวันชนะ - ร่างกายจะต่อต้านการอดอาหารสุดขีดเสมอ และสุดท้ายน้ำหนักก็จะดีดกลับมามากกว่าเดิม ผู้เขียน : โอซึงว็อน ผู้แปล : นภัสสร วิรัชศิลป์ สำนักพิมพ์ : nami
เมื่อมีเงินโอนเข้ามาในบัญชี.... ว่าแต่ใครโอนมา ?
เมื่อมีเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีกสิกรไทย สมมุติว่า ยอด 10,000 บาท สิ่งแรกที่รู้สึกคือ....ใครโอนมา, เงินค่าอะไร งานไหน แล้วทำไมไม่แจ้งว่าจะจ่ายเงิน แทนที่จะดีใจ ก็ปวดหัวแทน เพราะไม่รู้ว่าใครโอนมา แล้วที่โอนมาเนี่ย มันเงินของงานไหน สิ่งที่ทำไม่ได้คือ ถามลูกค้าว่าโอนมาหรอ ยอมจ่ายเงินผมแล้วใช่ไหม เพราะปกติแล้วงานแต่ละชิ้นยอดตรงกันเยอะมาก จะให้เดาว่าลูกค้ารายไหน ไม่รู้จะเดายังไง แล้วยิ่งต้องทำงานหลายอย่าง บางทีก็ลืมว่างานไหนยอดเท่าไหร่ มีจดไว้ก็จริงแต่ยอดตรงกันเยอะ บวกกับบางทีจ่ายช้า จ่ายเร็ว บางที่ก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ลำดับต่อมาคือเช็ค k cyber banking ปรากฏว่าุบอกแค่ตัวเลขเชี่ยไรไม่รู้ เลขบัญชีคนโอนก็ไม่ใช่ มีบอกแค่โอนผ่านช่องทางไหน แล้วก็ตัวเลขที่ดูงงๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นบัญชีของใคร ใครโอนมาอยู่ดี ที่เคยเจอหลักๆ มีอยู่ 2 กรณี กรณีที่ 1 ฝากเช็คให้ หรือทำรายการที่สำนักงาน กรณีนี้สิ่งที่ต้องทำคือ โทรสอบถาม Call Center ว่าเงินยอดนี้ใครโอนมา ซึ่งถ้าโอนจากกสิกรด้วยกันจะบอกชื่อบัญชีได้เลย แต่ถ้าไม่ พนักงานจะแจ้งแค่ชื่อธนาคารต้นทางที่โอนมา สิ่งที่เราต้องทำคือ โทรไปสอบถามที่ Call ...

ความคิดเห็น